ปัจจุบันหัตถการการแก้ไขปัญหาเรื่องความสวยความงามนั้นมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Hifu, ulthera หรือ Thermage ซึ่งเป็นหัตถการที่มีการรักษาคล้ายคลึงกัน จึงทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกสับสน และแยกไม่ออกว่าแต่ละการรักษาช่วยเรื่องอะไร บ้าง ในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบกันให้ชัดเจนว่า Hifu คืออะไร? ulthera คืออะไร? เปรียบเทียบ hifu vs ulthera ข้อดี ข้อเสีย มีอะไรบ้าง? รวมคำแนะนำหลังจากการทำ Hifu พร้อมแนะนำคลินิกสำหรับการทำ Hifu ศึกษาเพิ่มเติมได้เลย ที่นี่ มีประโยชน์แน่นอน!
Hifu หรือไฮฟู่ คือ เทคโนโลยีการยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์ High-intensity Focused Ultrasound ที่ให้พลังงาน ความร้อนประมาณ 65 – 70°C เมื่อยิงไปโดนผิวหนังชั้น SMAS ในบริเวณต่าง ๆ คลื่นความร้อนจะช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน และเส้นใยอิลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังในบริเวณนั้นเกิดความยืดหยุ่น ยกกระชับ ดูสุขภาพดี และลดเลือนริ้วรอยได้โดยที่ไม่ทำลายผิวหนังชั้นนอกเลย โดยเครื่องยิง Hifu ที่เรารู้จักกันจะใช้เป็นเครื่อง Hifu Ultraformer III ที่มีหัวยิงหลายขนาด ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาของสภาพผิวหนังตามระดับความลึกของผิว
Ulthera หรืออัลเทอร่า คือ เทคโนโลยีการยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์ High-intensity Focused Ultrasound ที่ให้พลังงานความร้อนประมาณ 65 – 70°C คล้ายกับการทำไฮฟู่ แต่ว่าจะมีขนาดประมาณ 1 mm ค่อนข้างเล็กคล้ายจุด ไข่ปลา ยิงเรียงกันบนผิวหนังชั้น SMAS ให้เป็นเส้นตรงเพื่อให้มีผลคล้ายกับการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ผิวเกิดการหดตัว ผิวบริเวณนั้นจึงมีความยกกระชับ เนื้อเยื่อต่าง ๆ จะจับตัวกันแน่นขึ้นในบริเวณจุดที่ยิง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ เส้นใยอีลาสติน ทำให้ผิวดูยืดหยุ่น ยกกระชับ และดูอ่อนเยาว์ โดยเครื่องยิง Ulthera ที่เรารู้จักกันดี จะเป็นเครื่อง New Ulthera ที่มีหน้าจอสำหรับการดูจุดที่ยิงในชั้นผิวหนังเพื่อความแม่นยำ
อย่างที่เราทราบกันดีว่า hifu vs ulthera เป็นเทคโนโลยีกระชับผิวที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์แบบเดียวกัน เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินชั้นผิวหนัง SMAS แต่ Hifu ข้อเสียที่คุณควรทราบ คือ
1. เครื่องสำหรับยิง Hifu ไม่มีหน้าจอแสดงการยิงแบบ Real Time ขณะทำจึงไม่สามารถเห็นชั้นผิวได้อย่างชัดเจน อาจจะมีความแม่นยำน้อยกว่า Ulthera
2. การทำ Hifu ยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา
3. การทำ Hifu เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุไม่สูงมากนักที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย และริ้วรอยปานกลาง หากมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย และริ้วรอยลึก ใช้หัตถการนี้อาจจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
4. การทำ Hifu ต้องทำประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อปี โดยให้ผลลัพธ์ประมาณ 4 – 12 เดือน จึงอาจเกิดค่าใช้จ่ายจากการทำซ้ำได้
ข้อดีของ Hifu
ข้อเสียของ Hifu
ข้อดีของ Ulthera
ข้อเสียของ Ulthera
Mona clinic เป็นสถาบันเสริมความงามที่ให้บริการแบบครบวงจรในเรื่องของการแก้ไขปัญหาผิวที่ได้ผล ซึ่งการทำ HIFU จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาด้วยเครื่องยิงที่ทันสมัย มีมาตรฐาน และสะอาด แต่เนื่องจากเครื่องยิงไฮฟู่ไม่มีหน้าจอที่แสดงชั้นผิวอย่างชัดเจน จึงต้องอาศัยเทคนิค และประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการรักษาในการประเมินปัญหา จำนวนช็อต บริเวณที่ต้องทำการยิง และหัวยิงที่ใช้ยิง เพื่อให้การรักษาได้รับประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งการหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ บวม รอยแดงไหม้ที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาผิดพลาดได้ นอกจากนี้ที่ Mona clinic ยังสามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้กับ BTS และ MRT เดินทางมาพบคุณหมอได้ง่ายมาก ๆ
Hifu vs Ulthera เป็นหัตถการสำหรับการยกกระชับ และปรับรูปหน้าให้เข้ารูปสวยงาม พร้อม ๆ กับการกระตุ้นผิวให้สุขภาพดี มีความยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเป็นธรรมชาติในระยะสั้น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากทำการผ่าตัดศัลยกรรม ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากพักฟื้น ดังนั้นการรักษาไม่ว่าจะเป็นหัตถการไหนจึงต้องมีการตัดสินใจเลือกสถานบริการที่มีมาตรฐานความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพมากที่สุด