เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งในวงการแพทย์ เดิมทีนำมาใช้รักษากลุ่มอาการ ความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้อตากระตุก อาการโรคตาเหล่ เป็นต้น และในเวลาต่อมา ได้มีการพัฒนานำมาใช้ในวงการเสริมความงามจนถึงปัจจุบัน
มีผลทำให้กล้ามเนื้อหยุดการทำงานชั่วคราวในบริเวณที่ฉีด เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะจับตัวกับปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ ช่วยลดการหดเกร็งและปรับขนาดของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด ส่งผลให้ริ้วรอยลดเลือนลง และกล้ามเนื้อดูเล็กลง เช่น การปรับรูปหน้าบริเวณกราม นอกจากนี้ ยังช่วยกระชับกรอบหน้าให้ดูตึงกระชับขึ้น อีกทั้งยังสามารถยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ส่งผลให้เหงื่อและกลิ่นตัวลดลงได้อีกด้วย
✓เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม
✓เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย ผิวเรียบเนียน ตึงขึ้น
✓เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า
✓เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขน
✓เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดเหงื่อรักแร้ ลดกลิ่นตัว
✓เหมาะกับผู้ที่ต้องการฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อแขน ขา น่อง
✓เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาออฟฟิศซินโดรม
✓ลดกราม, ลิฟท์กรอบหน้า, ลิฟท์โหนกแก้ม, กระชับรูขุมขน
✓ลดริ้วรอย เช่น หน้าผาก, หางตา, หว่างคิ้ว
✓ลดปีกจมูก รัดแกนจมูก
✓ลดเหงื่อใต้วงแขน
✓ลดขนาดแขน ขา น่อง
✓รักษาออฟฟิศซินโดรม (คอ บ่า ไหล่)
มีอายุประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆของแต่ละบุคคล เช่นคนที่ชอบแสดงสีหน้าด้วยการยักคิ้วหรือขมวดคิ้วบ่อยๆ ก็จะส่งผลให้ริ้วรอยในบริเวณดังกล่าวกลับมาได้เร็วกว่าคนที่ไม่ค่อยแสดงสีหน้า และการดูแลตัวเองหลังฉีด เช่น การหลีกเลี่ยงเลเซอร์, ทรีทเมนท์, อบซาวน่าหรือความร้อนต่างๆ
จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ใน 1-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่เมื่อครบ 1 เดือน
ควรเว้นระยะเวลาการฉีดซ้ำแต่ละครั้งอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 เดือน หรือเว้น 4-6 เดือนจะดีที่สุด แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการใช้งานกล้ามเนื้อในแต่ละส่วนของแต่ละบุคคลด้วย จึงทำให้ระยะเวลาที่ฉีดซ้ำแตกต่างกันไป
✓เคี้ยวหมากฝรั่ง ขยับกล้ามเนื้อบริเวณบริเวณที่ฉีดในช่วง 30 นาทีแรก
✓งดนอนราบ 4 ชั่วโมง
✓ห้ามกด นวดบริเวณที่ฉีด 6-8 ชั่วโมง
✓งดออกกำลังกายหนัก 2-3 วัน
✓งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
✓งดการทำเลเซอร์ การอบซาวน่า การทำทรีทเมนท์หรือการโดนความร้อนจัดบริเวณใบหน้า เป็นเวลา 2 สัปดาห์
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการใช้ตัวยาปลอม หรือตัวยาหิ้วที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งหลังจากฉีดครั้งแรกไป ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่าที่ควร และผลลัพธ์จะเริ่มได้ผลลดน้อยลง ในครั้งต่อๆไป เพราะร่างกายของคนเรา สร้างภูมิต้านทานต่อตัวยามากยิ่งขึ้น
