ทรีทเม้นท์หน้า (Facial treatment) กระบวนการเพื่อปรนนิบัติผิวหน้า ดูแลรักษา หรือบำรุงผิวหน้าด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งแต่ละขั้นตอนในการทรีทเม้นท์ผิวหน้าจะเน้นเพื่อการขจัดปัญหาแต่ละสภาพผิว จากวิตามิน แร่ธาตุ และเทคโนโลยีต่างๆ โดยการทำทรีทเม้นท์นั้นสามารถแก้ปัญหาผิว ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการทรีทเม้นท์ผิวหน้า
การทำทรีทเม้นท์หน้าตอบโจทย์ในเรื่องของการแก้ปัญหาผิว เพราะเป็นการฟื้นบำรุงผิวด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผิวที่มีคุณภาพสูง จึงช่วยแก้ปัญหาผิวที่ฝังรากลึกมานาน และทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ อีกทั้งยังสามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกมากกว่าการบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงแบบธรรมดาอีกด้วย
✓ฟื้นฟูผิวหน้ากระจ่างใส
✓รักษาสิว
✓ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า
✓ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ
✓บำรุงผิวให้แข็งแรง
✓ผู้ที่มีผิวหยาบกระด้าง แห้งกร้าน
✓ผู้ที่มีผิวไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
✓ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
✓ผู้ที่มีปัญหาสิว
หลีกเลี่ยงการสครับผิว 3-4 วันก่อนทำทรีทเม้นท์ เพราะทรีทเม้นท์ผิวบางประเภทมีการผลัดเซลล์ผิว จะยิ่งทำให้ผิวบางกว่าเดิมและบางกรณีอาจเกิดการแพ้ได้
พยายามอย่างอยู่กลางแจ้งหรือโดนแสงแดดเป็นเวลานานเกินไป เพราะจะทำให้ผิวเกิดอาการไหม้หรือ Sun Burn ในกรณีผิวจะแพ้ง่ายและบอบบางเกินไป
อย่าแว๊กซ์ขนบริเวณใบหน้าหรือจุดที่จะทำทรีทเม้นท์เป็นเวลา 1-2 วันก่อนเข้ารับบริการ เพราะการแว๊กซ์เป็นการทำร้ายผิวชั้นบนชนิดหนึ่ง บางคนอาจเกิดอาการแดง อักเสบ และระคายเคืองได้
การทำ Treatment บางท่านที่ทำทรีทเม้นท์อาจจะเห็นถึงผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ ได้แก่ ผิวหน้าสะอาดขึ้น หรือรู้สึกถึงผิวที่เรียบเนียน และมีความชุ่มชื้นจนสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนขึ้น แต่ถ้าเป็นปัญหารอยสิว ฝ้ากระ จุดด่างดำ อาจจะต้องใช้เวลาเพื่อบำรุงสุขภาพผิวให้ดีขึ้นตามลำดับ
การทำทรีตเมนต์หน้าไม่ได้มีตัวเลขชัดเจนว่าควรทำบ่อยแค่ไหน แต่สำหรับใครที่มีผิวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผิวที่เป็นสิว หรือเป็นฝ้า อาจจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อบำรุงสุขภาพผิวให้ดีขึ้นตามลำดับ โดยควรทำทรีทเม้นท์อย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง จะช่วยทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้นและแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้จำนวนครั้งจะขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล
อายุระหว่าง 20 – 30 ปี
ผิวยังคงดูมีสุขภาพดี มีความเรียบเนียนสดใสและกระชับ เป็นเพราะผิวยังมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทุกๆ 14-25 วัน แต่จะอาจมีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น มีริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ แนะนำให้ทำทรีทเม้นท์ผิวหน้าเดือนละ 1-2 ครั้ง
อายุระหว่าง 30–40 ปี
เซลล์ผิวเริ่มผลัดช้าลง ผิวมีความหมองคล้ำและเริ่มขาดความกระชับ ขาดความชุ่มชื้นและแห้งลง ริ้วรอยชัดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา แนะนำให้ทำทรีทเม้นท์สัปดาห์ละ 1 ครั้งในระยะแรก และควรทำทรีทเม้นท์ผิวหน้าต่อเนื่องอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
อายุระหว่าง 40-50 ปีขึ้นไป
ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวขาดความกระชับและยืดหยุ่น ชั้นผิวบางลง ริ้วรอยลึกทั่วใบหน้า แนะนำให้ทำทรีทเม้นท์ เพื่อต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกันซักระยะ และควรทรีทเม้นท์ต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์ต่อครั้ง
✓หลังทำทรีทเม้นท์ผิวหน้าจะทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดเสมอ
✓ควรเว้นจากการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินเอ เป็นเวลา 72 ชั่วโมง หลังการทำ เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองและรอยแดง